tag:blogger.com,1999:blog-83822399209882492222024-03-13T11:57:47.061-07:00สระน้ำเป่าลมAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/13819413107694989996noreply@blogger.comBlogger4125tag:blogger.com,1999:blog-8382239920988249222.post-33037935406917417792017-02-09T20:56:00.000-08:002017-02-09T20:56:30.008-08:00<b><span style="font-size: large;">ที่เราไปเล่นน้ำในสระน้ำนั้นเราไม่รู้เลยว่าน้ำในนั้นมันสะอาดแค่ไหน เลยหาซื้อ <u>สระน้ำเป่าลม</u> มาเล่นเองที่บ้าน</span></b><br />
<br />
แต่กลับ ดับสินอัตตา อย่างเป็นสูญชนิดสะอาดสนิทสัมบูรณ์ด้วยซํ้าเพราะ อดีต ก็สูญมาแล้วด้วยสามารถอย่างดีเยี่ยมไม่บกพร่องตลอดสาย + ปัจจุบัน ก็สูญได้ อย่างเป็นเอง เป็นได้อย่างนั้นจริงไม่แปรเปลี่ยน (อวิตถตา) ความเป็นอย่างอื่นไม่มี <b>สระน้ำเป่าลม ราคา</b> (อนัญญถตา) มีแต่ว่าเมื่อมีสิงนี้คือ นิพพานเป็นเหตุจึงจะมีลี่งนั้นอันก็คือนิพพานนันเองเป็นผลสืบต่อไป หากสิงนี้คือ นิพพาน ไม่มี สิงต่อ ๆ ไปคือ นิพพานก็ไม่มี (อิทัปปัจจยตา) หรือมีสิงที่เป็น นิพพานชนิดไม่ถูกต้องเป็นเหตุสิงที่เป็น นิพพานชนิดไม่ถูกต้องก็ต้องมีเป็นผลต่อไปมิจฉาทิฏฐิขวางทางนิพพานอาตมาจะขออธิบายถึงเรื่องความเห็นที่มันยังมีจุดสำคัญที่ต้องพูดถึงต่อไปอีกหน่อย เพราะสัมมาทิฏฐินี้เป็น <b>เสื้อชูชีพ</b> ประธานโดยแท้โดยตรงหาก ทิฎฐิ ไม่ สัมมาเสียอย่างเดียวแล้ว ก็เป็นอันหมดหวังที่จะปฏิบัติไปถึงจุดหมาย <a href="https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%95%E0%B8%B2">อนัตตา</a> หรือ นิพพานจริงๆ แล้ว ความเห็นก็เป็น สภาวะที่เกิดที่เป็นในจิตคนและเป็น อะไรอันปรากฏ (สภาวะ) อยู่ในจิตที่หลงยึดเข้าไป เป็น <b>แพยางแฟนซี</b> ตัวตนอย่างหนึ่ง ส่วน อะไรอันปรากฏอยู่ในจิตซึ่งมีนี้าหนักแห่งความเข้มข้นกินลึกเจาะเข้าไปในจิตได้แนบเนียนฝังในจิตยิ่งกว่า ทิฎฐเสียอีก นั่นคือความเป็นตัวตนอันน่ากลัว ที่มันเข้าขั้นต้องเรียกว่าอุปาทานนี่เองเพราะฉะนั้นภาวะที่ผู้อวิชชาหลงยึดจากสภาพ ทิฏฐชอนไชลึกเข้าไปเป็นสภาพอุปาทานกระทั่งเป็นตัวตนนั้นพระพุทธเจ้า <b>แพยางแฟนซีรูปสัตว์</b> ทรงเรียกชื่อว่าทิฏจุปาทานดังจะเห็นได้ว่า ทิฎฐ นั้น หากผู้ใดยังมีทิฏฐิ เป็นมิจฉาทิฏฐิอยู่ ก็ต้องทำความเห็นที่มิจฉาให้เป็นสัมมาทิฏฐให้ได้เสียก่อน ซึ่งมิจฉาทิฏฐที่ว่านี้มันก็คือความเป็นอัตตาชนิดหนึ่ง ที่ต้องปฏิบัติละล้างความเห็นที่หลงยึดผิดๆเอาไว้ นั่นเอง จากนั้นแม้ผ้นั้นจะคืกษาจน สัมมานิพพานเนิน สมณะโพธิรักษ์ทิฎฐิ ได้แล้วเป็นขั้นต้น ขั้นต่อไปก็ต้องปฏิบัติตาม อาริยมรรคองค์ 8ให้เกิดสัมมาใหได้อีกทั้ง 7 องค์ ได้แก่ สัมมาสังกัปปะสัมมาวา <b>ที่สูบลมไฟฟ้า</b> จาสัมมาก้มมันตะสัมมาอาชีวสัมมาวายามะสัมมาสติสัมมาสมาธิ เพื่อละล้างส่วนที่ยังมีอะไรต่างๆ ที่หลงยึดถือเป็นตัวไว้ เช่นทิฏรุปาทาน(สภาวะที่ยึดในทิฎฐิ)หรือกามุปาทาน (สภาวะที่ยึดในกาม) เป็นต้น จึงจะมีประสิทธิผลเป็น สัมมา <b>สระน้ำสไลด์เดอร์</b> ญาณและสัมมาวิมุติซึ่งก็คือความไม่มีตัวตนของอุปาทานทั้งหลายนั่นเอง อันเป็นสภาวะของอนัตต จึงจะเข้าถึง นิพพานหากใครมี ความเห็นว่าไม่มี อัตตา ชนิด ปฏิเสธอัตตา เขาผู้นั้นก็ไม่ต้องปฏิบัติละล้างมัน <b>แพยางแฟนซี ราคา</b> ผู้นี้ก็เชื่อทำทิฏฐิให้แจ้งชัดแล้วก็จบเรื่องหรือจะเข้าใจว่าตนจบกิจ แล้ว ก็คงจะง่ายดีแต่ตามความเป็นจริงนั้น เมื่อคนผู้ใดยังมี ความหลง (โมหะ) ยังกิเลสตัณหาอุปาทาน หรือยังมีความไม่รู้ (อวิชชา) จริงๆ หรือแม้แต่ยังมี มิจฉาทิฏฐิจริงๆ ผู้นั้นก็ย่อมมีอัตตา <b>เสื้อชูชีพ ราคา</b> หรือสภาวะที่ยังไม่สัมบูรณ์นั้นๆ นั่นแหละ ที่จะต้องละล้างหรือกำจัดมันให้ดับสนิทไปจากตนให็ได้แต่ถ้าขืนเข้าใจหรือมี ความเห็น เพี้ยนไปเป็น นิรัตตากล่าวคือเห็นความไม่มีตัวตนเลยเกิดไป กระทั่งว่าปฏิเสธไปหมดแม้สิงที่เราหลงยึดหลงถืออยู่จริง ก็ติทิ้ง เพราะความเห็นมันเพี้ยนไปด้งได้อธิบายมาแล้วความเข้าใจของใครก็ตามหากเป็นดังว่านั้ยังเป็น มิจฉาทิฏฐ ยังกั้นทาง นิพพาน ของตน ด้วยทิฏฐของตนเองพระพุทธเจ้าจัด <b>สระน้ำเป่าลมสไลเดอร์ ราคา</b> ทิฏฐิเช่นนี้อยู่ในจำพวก อุจเฉทิฏฐิเพราะความเห็นยังไม่เป็นแม้แต่อัดตทิฎ จึงโอกาสที่จะ นิพพานเพราะ อนัตตาถูกตัดขาดไปด้วยนิรัตตทิฎอัตตทิฏ คือความเห็นว่าเป็นตัวแต่ไมใช่สัสสตทิฏฐิความเห็นว่าเที่ยงเพราะไม่ได้หลงผิดว่าตัวตนหรืออัตตาเที่ยงเพียงแต่ยอมรับว่า<br />
<b><a href="http://summerpool.lnwshop.com/">สระน้ำเป่าลมสไลด์เดอร์</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/13819413107694989996noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8382239920988249222.post-71027815113700187752017-02-09T20:39:00.002-08:002017-02-09T20:39:57.816-08:00<span style="font-size: large;"><b>เรากำลังหา สระน้ำเป่า ราคาถูก อยู่ซึ่งเราเจออยู่ร้านหนึ่งดีมากๆเลยราคาถูกและส่ใจในการบริการ</b></span><br />
<br />
การออกพระราชบัญญัติการปกครองคณะสงฆ์ฉบับแรกในปี พ.ศ.2445(ร.ศ. 121)ได้นำความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงมาสู่โครงสร้างของคณะสงฆ์ไทย ทำให้คณะสงฆ์ทั้งคณะตกอยู่ภายใต้ระบบราชการไทยราชการเป็นผู้ให้คุณให้โทษแก่พระสงฆ์ มิใช่ประชาชนดังเช่นในอดีตอีกต่อไประบบการควบคุมซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนกับพระสงฆ์ กล่าวคือประซาชนควบคุมพระสงฆ์ในเชิงวัตถุและพระสงฆ์ควบคุมประชาชนในเชิงจิตใจได้ค่อย ๆหมดไป <b>สระน้ำเป่าลม</b> พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับที่สองซึ่งออกในปี พ.ศ. 2484 นั้นแม้ว่าจะสอดคล้องกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยมิการแยกอำนาจเป็นสังฆสภา คณะสังฆมนตรีภายใต้การนำของสังฆนายก และคณะวินัยธรก็ตาม แต่ระบบราชการในคณะสงฆ์ก็ยังคงอยู่ และโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับพระสงฆ์ก็ยังมิได้รับการแกไขให้ดีฃึ้นการออกพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับที่สามในปี พ.ศ. 2505 <b>ที่สูบลม </b>ในยุคเผด็จการทหารของจอมพลสถุษดื้ ธนะรัชต์ นั้น ทำให้คณะสงฆ์ตกอยู่ภายใต้การปกครองระบอบเผด็จการและความล้าหลังของระบบราชการ แม้ว่าจะมีการปรับปรุงแกัไขบางมาตราในปี พ.ศ. 2535 ก็ตามแต่ก็เป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อยเท่านั้น <b>ที่สูบลมไฟฟ้า</b> พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับนี้ยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบันและกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการแกไขปัญหาของคณะสงฆ์ไทยการที่พุทธศาสนาของไทยจะสามารถดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคง และเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงและการท้าทายอย่างใหม่ ๆขบวนคิดแบบนี้ คือ ฐานคิดแบบมหายานที่ดูคล้ายกับหลักของเต๋าที่กล่าวว่า <a href="https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%8B%E0%B8%B2">เต๋า</a> คือ ความจริงที่เป็นฐานของความจริงทั้งมวล <b>เสื้อชูชีพ </b>มีอยู่ในทุกสิงทุกอย่าง เป็นความจริงที่เป็นอมตะที่ไม่ดับสลายและคล้ายกับหลักของฮินดูเรื่อง พรหมมัน กล่าวคือ มีสิงหนึ่งที่ดำรงอยู่เป็นศูนย์กลางแห่งชีวิตจิตวิญญาณและทุกสิงทุกอย่าง เป็นอมตะที่ไม่มีวันแตกดับลงไปได้แต่ต้องระวังลักนิดคือการตีความแบบนี้จะนำสู่การเข้าใจพุทธศาสนาในเชิงลัทธิพระโพธิสัตว์เพราะ <b>ห่วงยางแฟนซี</b> เมื่อธรรมกายเป็นสิงที่เป็นอมตะพระพุทธเจ้าเมื่อนิพพานแล้วก็ต้องดำรงอยู่ หากดำรงอยู่ จะอยู่ที่ไหน ก็ต้องหาสวรรค์ให้ท่านอยู่ ดังนั้น ต้องมีสวรรค์สำหรับบรรดาพระผู้ตรัสรู้รวมทั้งเทพกวนอิมและบรรดาเทพมากมายอื่นๆคนที่เชื่อในเรื่องราวแนวคิดเช่นนี้ <b>แพยางแฟนซี</b> จึงเชื่อว่าพระพุทธเจ้ายังดำรงอยู่(อัตตา) และผู้ที่มีธรรมสูงส่งจะสามารถถอดจิตไปเฝืาพระพุทธเจ้าบนสรวงสวรรค์ได้มหายาน กับเรื่องราวของเทพเทวดา จึงมาใกล้เคียงกันอย่างยิ่งแต่ละเส้นทางนั้น ก็มีทั้งข้อเด่น และข้อด้อยของตนเองคง <b>สระน้ำสไลเดอร์</b> ไม่สามารถกล่าวได้ว่าเส้นทางไหนดีที่สุด หริอแม้จะใช้คำว่า งมงาย ก็ยากที่จะกล่าวเพราะถึงที่สุดผมคิดว่าเราคงต้องเคารพความแตกต่างทางความคิดหรือเสรีภาพทางความคิด ไม่ใช้ความถูกผิดหรืองมงายเป็นเครื่องชี้ขาดคำว่า นิพพานของมหายานกับนิพพานของหินยานจึงต่างกันอย่างสินเชิงดังนั้นไมผิดเลยที่หลวงพ่อสดบอกว่า <b>สระน้ำเป่าลมสไลเดอร์ ราคา </b>ของท่านเป็นอัตตาและไม่ผิดอีกเช่นกัน ที่นิพพานของพระไตรปิฎกเป็นอนัตตาเพราะมันเป็น นิพพานคนละนิพพานกันแต่ที่เหมือนกันคือ เส้นทางสู่นิพพาน ล้วนแต่สอนให้คนเป็นคนดีมีธรรมเป็นที่ตั้งนำจะกล่าวว่าแต่ละเส้นทางน่าจะเหมาะกับแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน<br />
<b><a href="http://shopbabyeasy.lnwshop.com/category/2/%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C">สระน้ำเป่าลมสไลด์เดอร์</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/13819413107694989996noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8382239920988249222.post-17186707072413057672017-02-09T20:32:00.000-08:002017-02-09T20:32:00.480-08:00<span style="font-size: large;"><b>เด็กๆชอบเล่นน้ำเราเลยหาซื้อสระน้ำราคาแบบถูกๆให้ลูกๆเล่นเด็กๆชอบมาก</b></span><br />
<br />
นี่คือ นิพพาน ผมฟังดู ก็สรุปได้ว่า พวกที่น่าจะ นิพพานได้น่าจะเป็นพวกโยคีมากกว่าพระแต่ที่น่าสนใจที่สุด คือ มีการถกธรรมเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนิพพานนิพพานคือ อัตตา หรือนิพพานคือ อนัตตาแต่ถึงอย่างไร กรอบของการถกเถียง และวิจารณ์ก็ยังจำกัดประการแรก คือ ตกอยูในกรอบผิดหรือถูก และถูกครอบด้วยทางเลือกที่เลือกไม่ได้ เพราะถ้าทางหนึ่งถูกอีกทางหนึ่งก็ผิดเพราะหากนิพพานเป็นอัตตา นิพพานก็ไม่เป็นอนัตตา <b>สระน้ำเป่าลม ราคา</b> ดังนั้นพอคนฟังเสร็จก็ต้องเลือกว่า จะเอาอะไร อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นอีกประการหนึ่ง ที่ผมรู้สืกแย่มากๆ คือ อะไรถูก อะไรผิด ก็ต้องติดตำราเป็นสำคัญ หรือไม่ก็ต้องหันกลับไปหาจากพระไตรปิฎกว่ามีบัญญัติหรือข้อ เขี ยนว่าไว้อย่างไรโดยไม่มีการตั้งคำถามว่าพระไตรปิฎกก็ผิดได้เพราะไมจำเป็นต้องถูกต้องเสมอไปในทุกกรณี และทุกเรื่องดังนั้น การกลับไปใช้พระไตรปิฎกเป็นมาตรฐานผิดถูก ก็ยังจำกัดไม่ว่าจะอ้างว่าพระไตรปิฎกที่เรามีอยู่ถูกต้องและสมบูรณ์แค่ไหนก็ตามก็ไมจำเป็นว่าเป็นเครื่องยืนยันหรือนั่งยันได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ว่านิพพานคืออะไรที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน และเป็นไปได้ประการแรก คือนิพพานเป็นทั้งอัตตา <b>สระน้ำสูบลมสไลเดอร์</b> และอนัตตาในเวลาเดียวกันประการที่สอง นิพพานอาจจะไม่ใช่ทั้งอัตตา และอนัตตาผมคิดว่า เป็นไปได้มีหลักปรัชญาตะวันออกคือ หลักหยางกับหยืน ที่กล่าวว่า สิงหนึ่งนั้นประกอบด้วยด้านตรงกันข้ามหรือหยางกับหยิน ถ้าใช้หลักความคิดนี้สิงหนึ่งจะประกอบด้วยคุณสมบัติตรงกันข้ามเสมอถ้ากล่าวว่า นิพพานเป็นอนัตตา <b>สระน้ำเป่าลมสไลเดอร์ ราคา</b> นิพพานก็จะเป็นอัตตาได้ด้วยหรือพูดง่าย ๆทุกอย่างขึ้นกับช่วงเวลา หรือจังหวะที่พลิกผันไปมาความเป็นไปได้ อีกปร ะการหนึ่งคือนิพพานอาจจะไม่ใช่ทั้งอัตตาและอนัตตา แต่เป็นอีกมิติ หรือของ <a href="https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%87">ลิง</a> หรือสภาวะที่สามารถก้าวผ่านสภาวะทั้งสองความจริงแล้ว ผมเลือกที่จะให้ความหมาย นิพพานในความหมายนี้มากกว่าแต่ก่อนที่จะพูดว่า นิพพาน คือ อัตตา หรือ อนัตตา คงต้องทำความเข้าใจว่า อะไรแน่ คือ นิพพานแต่ก่อนที่จะรู้ว่า <b>สระน้ำสไลเดอร์ </b>อะไรคือ นิพพาน ก็คงต้องรู้ว่า อะไรคือ เส้นทางสู่นิพพานแน่นอน เส้นทางสู่นิพพาน ก็คือเส้นทางสู่ธรรมแต่เส้นทางสู่ธรรมนั้นก็มีหลายเส้นทาง หาได้มีเส้นทางเดียวที่ผูกขาดความถูกต้องอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ในสังคมไทยก็มีหลาย <b>สระน้ำเป่าลม</b> เส้นทางเช่นกันเส้นทางแรก ที่โดดเด่นที่สุดคือเส้นที่ผ่านการเรียนรู้จากพระไตรปิฎกผู้ที่โดดเด่นที่สุดบนเส้นทางนี้ คือ พระธรรมปิฎกเส้นทางที่สอง คือ เส้นทางผ่านสมาธิ ชึ่งมีหลายแนวที่โดดเด่นที่สุดคือ สายวัดป่า ทั้งทางภาคเหนือ และทางภาคอีสานเส้นทางที่สาม คือ ผ่านลิงที่เรียกว่า คืล และปฏิบัติภาวนา ที่เห็นโดดเด่น คือ <b>สระน้ำสูบลม</b> ท่านสมณะโพธิรักษ์เส้นทางที่สี คือเส้นทางปัญญา ผู้ที่ปฏิบัติโดดเด่นที่สุด คือท่านพุทธทาสเส้นทางที่ห้า คือ เส้นทางธรรมกาย เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่เชื่อว่า มีความเป็นอมตะ เป็นที่สุดของธรรมดำรงอยู่ที่สามารถก้าวผ่านลิงที่เรียกว่าวัฏจักรแห่งการเวียน ว่าย ตาย เกิด หรือหลักแห่งอนิจจัง ทุกขังและอนัตตาความเป็นอมตะนี้คือ ธรรมกาย (ศูนย์แห่งธรรม) ไม่มีวันตาย ไมดับสลายและไม่สินสุด ผู้ที่โดดเด่นที่สุด บนเส้นทางนี้ คือ หลวงพ่อสด<br />
<b><a href="http://shopbabyeasy.lnwshop.com/">สระน้ำเป่าลมสไลด์เดอร์</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/13819413107694989996noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-8382239920988249222.post-23575644307377833892017-01-08T02:47:00.001-08:002017-01-08T02:47:15.885-08:00<b><span style="font-size: large;">เราชอบเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำแต่เราก็ไม่ชอบออกไปจากบ้านเลยซื้อสระน้ำเป่าลมมาเล่น</span></b><br />
<b><span style="font-size: large;"><br /></span></b>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="https://3.bp.blogspot.com/-MHn9qPrbY8o/WHIXrjmvhHI/AAAAAAAAADE/gXYfuuOG8LUs_scp9Y9lnjRbl7aFshzFACLcB/s1600/1.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="184" src="https://3.bp.blogspot.com/-MHn9qPrbY8o/WHIXrjmvhHI/AAAAAAAAADE/gXYfuuOG8LUs_scp9Y9lnjRbl7aFshzFACLcB/s320/1.jpg" width="320" /></a></div>
<br />
ไม่เที่ยงนี่แหละซึ่งตามความจริงอันประเสรืฐอารืยสัจแล้ว มันสมณะโพธิรักษ์ไม่เที่ยงไมแท้แต่ผู้ไม่รู้จักมันและไม่มีวิธีกำจัดมัน มันก็จะวนเวียนพาสุขพาทุกข์พาก่อโทษ <b>สระน้ำเป่าลม ราคา</b> ก่อภัยอยู่ไมรู้จบสินเป็นสังสารวัฏเวียนวนเป็นสามัญโลกโลกียะอยู่ตราบทีไม่มีสัมมาอาริยมรรคสัมมาอาริยผลสัมบูรณ์จึงจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติละล้างอัตตานั้นๆออกให้สินเกลี้ยงดังกล่าวมาแล้วและพระองค์ก็ทรงใช้คำว่า อัตตวาทุปาทานซึ่งหมายถึงการยึดถือได้แค่คำพูดว่าเป็นตัวตนกับประโยคที่ว่าสิงทั้งหลายทั้งปวงไม่ว่าจะเป็นสังขตธรรมสิงที่ยังปรุงแต่งกันอยู่หรืออสังฃตธรรมนิพพานหรือสิงที่ไม่มีการปรุงแต่งแล้วล้วนไม่มีตัวตนหรืออนัตตาทั้งสินเป็นการแจ้งให้ทราบชัดๆ กันว่าศาสนาพุทธไม่มีอัตตาไม่มีตัวตนที่เที่ยงแท้นิรันดรที่เล่าสู่ฟ้งชํ้าไปวน <b>สระเป่าลม</b> มานั้นก็เป็นเหตุนิทานสมุทัย<a href="https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2">ปัจจัย</a>ทำให้พระพุทธเจ้าต้องตรัสคำว่าอัตตวาทุปาทานซึ่งนั่นก็เป็นนัยหนึ่งและความเป็นอัตตวาทุปาทานอีกนัยหนึ่งก็คือเรื่องของชาวพุทธเราเองนี่เองที่มีทีฎริเป็นนิรัตตาหรือนิรัตตทิฏฐินัยสำคัญที่แตกต่างนิรัตตากับอนัตตาใครก็ตามที่เช้าใจผิดในคำว่าอัตตาโดยเข้าใจว่าอัตตานั้นคือสิงที่ไม่มีหรือขาดสูญเพราะเข้าใจเลยเถิดไปว่าอัตตาไม่มีอยู่ในที่ไหนๆเลยแม้แต่ในขันธ์5หรือในสังฃตธรรมอันยังปรุงแต่งกันอยู่ด้วยอวิชชาซึ่งเป็นการปฏิเสธอัตตาสินเซิงเป็นความเห็นทิฏฐิที่ส่อถึงความเกินเลยคือสุดโต่งไปข้างอุจเฉททิฎฐิความ <b>สระเป่าลม ราคา</b> เห็นว่าขาดสูญลักษณะนี้แหละที่พระพุทธเจ้าต้องจัดเป็นมิจฉาทิฏฐิเหตุเพราะมีความเห็นสุดโต่งเป็นอุจเฉทะขาดสูญแล้วตนเองก็เข้าใจสับสนโดยหลงเข้าใจว่านิรัตตาเป็นอย่างเดียวกันกับอนัตตาเพราะตามตัวพยัญชนะนิรัตตาก็ดีอนัตตาก็ดีมันแปลว่าไม่มีตัวตนได้ทั้ง2คำด้งนั้นหากผู้ใดเข้าใจผิดไปว่ามันมีนัยสำคัญเหมือนกันทุกอย่างก็ยังมิจฉาทิฏฐความเห็นผิดอยู่พฺแรรน่ทินิรัตตานั้นนับเป็นพวกอุจเฉททิฏฐิความเห็นว่า <b>สระน้ำสไลด์เดอร์</b> ขาดสูญเพราะปฏิเสธอัตตากล่าวคือเห็นว่าอัตตาไม่มีให้ปฏิบัติลดละแต่อย่างใดเป็นพวกเห็นว่าขาดสูญจึงเป็นมิจฉาทิฏฐิแต่อนัตตานั้นเป็นพวกสัมมาทิฏฐิความเห็นที่ถูกต้องนิรัตตาจึงไม่ใช่ความหมายเดียวกันกัอนัตตานิรัตตากับอนัตตานั้นมีนัยสำคัญที่ต่างกันลึกซึ้งมากแมโดยพยัญชนะจะเห็นว่าทั้งนิรัตตาและอนัตตาต่างก็แปลได้ว่าไม่มีตัวตนได้เหมือนกันแต่ความหมายอันลึกซึ้งที่เป็นนัยสำคัญนั้นต่างกันคนละฃัวใปเลยนิรัตตานันพระพุทธเจ้าทรงใช้ <b>สระน้ำสไลด์เดอร์ ราคา</b> ในความหมายมิจฉาทิฏฐิส่วนอนัตตาพระองค์ทรงใช้ในความหมายสัมมาทิฎฐิเพราะผู้มีนิรัตตาไม่ใช่ผู้บรรลุผลเหมือนผู้มีอนัตตาแน่ๆผู้มีอนัตตานั้นเป็นผู้มีนิพพาผู้มีนิรัตตาคือผู้ที่ยังมีความเข้าใจผิดสุดโต่งไปว่าอัตตใดๆก็ไม่มีเลยก็เลยกลายเป็นผู้ปฏิเสธอัตตอย่างสินเชิงเห็นว่าอย่างไรๆใดก็เป็นอัตตไม่ได้นิรัตตาของผู้นี้1จึงเขข่ายอุจเฉททิฏฐิความเห็นว่าขาดสูญดังนั้คนพวกนี้ก็เท่ากับฏิเสธอนัตตไปในตัวด้วย เพราะเมื่อผู้นี้เข้าใจว่าเขาเข้า <b>สไลด์เดอร์ </b>ใจถูกแล้วว่าไม่มีอัตตาใดๆ ที่จะต้องเอามาเรียนมาลดละเพียงแต่เข้าใจให็ได้ว่ทุกสีงทุกอย่างไม่มีตัวตนสัพเพธัมมาอนัตตาเมื่อเข้าใจแล้วก็เป็นอันจบโดยเชื่อว่าท่าความเห็นตรงนี้ให้ชัดๆก็เป็นอันมีทิฏฐิถูกตรงสัมมาทิฏฐิแล้วก็จบกิจแล้วสำหรับคำว่าอัตตาและอนัตตาเพราะเขาผู้นี้เห็นว่าคำว่าอัตตาหรือแม้คำว่าอนัตตาเป็นแค่ภาษาที่ใช้ลึอพูดกันให้เข้าใจเท่านั้นไม่มีอะไรมากกว่านั้นเมื่อเข้าใจดีแจ่มแจ้งชัดแจ้วแล้วก็เป็นอันไม่ต้องมีอะไรต่อสำหรับเรื่องของอัตตาและอนัตตานี่แหละคือลักษณะอัตตวาทุปาทาองชาวพุทธผู้ยึดถือได้แค่คำพูดเท่านั้นว่าเป็นตัวตนเพราะเมื่อได้ยินคำพูดว่าไม่มีตัวตนก็ท่าความเข้าใจเมื่อเข้าใจได้จึงสำเร็จทันทีเท่ากับไม่มีอัตตาใดๆ<br />
<b><a href="http://shopbabyeasy.lnwshop.com/">สระน้ำเป่าลมสไลด์เดอร์</a></b>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/13819413107694989996noreply@blogger.com0